วันที่ 21 มิถุนายน 2564 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมด้วย นายสุรเดชสมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายพนม มีศิริพันธุ์ ปศุสัตว์เขต 5 นายอนุสรณ์ หอมขจร ปศุสัตว์จังหวัดน่าน นายก อบต.ธนเศรษฐ์ มูลดำรงสวัสดิ์และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ร่วมลงพื้นที่ลงพื้นที่ตำบลส้านและตำบลจอมจันทร์ จังหวัดน่านเพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกิน ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินได้แพร่ระบาดในหลายพื้นที่อธิบดีกรมปศุสัตว์พร้อมด้วย นายสุรเดชสมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายพนม มีศิริพันธุ์ ปศุสัตว์เขต 5 นายอนุสรณ์ หอมขจร ปศุสัตว์จังหวัดน่าน และนายก อบต.ธนเศรษฐ์ มูลดำรงสวัสดิ์ ลงพื้นที่ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน มอบสารกำจัดแมลงและเวชภัณฑ์สัตว์ แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมเป็นขวัญกำลังใจทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือเกษตรกร และ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด โรคลัมปี สกิน และมอบสารกำจัดแมลง เวชภัณฑ์สัตว์กว่าร้อยราย และได้ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรว่า การป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรคลัมปี สกินให้ได้ผลนั้น ต้องทำทั้ง 5 มาตรการ ควบคู่กันไปทุกๆ มาตรการ ได้แก่ การควบคุมการเคลื่อนย้ายโค-กระบือ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค และปฏิบัติตามแนวทางการเคลื่อนย้ายอย่างเคร่งครัด การเฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว ควบคุมได้ทัน โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว การป้องกันและควบคุมแมลงพาหะนำโรคให้เกษตรกรป้องกันโดยใช้สารกำจัดแมลงทั้งบนตัวสัตว์ และบริเวณโดยรอบฟาร์ม ทั้งในพื้นที่ระบาดของโรคและพื้นที่เสี่ยง การรักษาสัตว์ป่วยตามอาการ และการใช้วัคซีนควบคุมโรค ซึ่ง จึงจะทำให้การป้องกันและควบคุมโรคมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โรคสงบ โดยเร็วอธิบดี กล่าวเพิ่มเติมว่าการใช้วัคซีนเป็นเพียงมาตรการหนึ่งในการป้องกันโรคเท่านั้นไม่ใช่การรักษาให้หายขาดจากอาการป่วยและการใช้วัคซีนซึ่งกรมปศุสัตว์ โดยคณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนฯ พิจารณากำหนดแผนการฉีดวัคขึ้น ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามระเบียบกรมปศุสัตว์ ว่าด้วยการฉีดวัคซีนล้มปี สกิน ในสัตว์ชนิดโค กระบือ พ.ศ. 2564 เพื่อให้เป็นแบบแผนเดียวกัน มีความปลอดภัยต่อสัตว์และเป็นไปตามหลักวิซาการ มีการประเมินความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนในพื้นที่ และประเมินประสิทธิภาพความคุ้มโรคหลังจากการฉีดวัคซีน และวันนี้ จังหวัดขอนแก่น มีการฉีดวัคซีนลัมปี สกินให้แก่โค-กระบือของพี่น้องเกษตรกร ด้านนายอนุสรณ์ หอมขจร ปศุสัตว์จังหวัดน่านเปิดเผยว่า จังหวัดน่านมีประชากรโคทั้งหมด 412ตัว โค ป่วย 107 ตัว โคหายป่วย 59ตัว โคป่วยคงเหลือ 44ตัว ยังไม่พบโคตายในพื้นที่ พบการระบาดในพื้นที่ทั้งสิ้นจำนวน 4อำเภอ 13ตำบล 21หมู่บ้าน ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดน่าน
ทั้งนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรเจ้าของโค-กระบือ จึงได้เตรียมการเยียวยาชดเชยเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบโคลัมปี สกินโดยดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายใดได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคลัมปี- สกิน และมีความประสงค์จะขอรับการเยียวยา ขอให้ติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ทางกรมปศุสัตว์พร้อมทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้การเฝ้าระวัง ควบคุม และกำจัดโรคลัมปี สกิน(Lumpy Skin Disease) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะต้องมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และทำให้ประเทศไทยปลอดจากโรคดังกล่าวนี้ให้เร็วที่สุด ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจ และหมั่นดูแลสุขภาพของโค-กระบือ อย่างใกล้ชิด ให้มีสุขภาพแข็งแรง งดการเคลื่อนย้ายจนกว่าสถานการณ์จะปกติ รวมทั้งดูแลสถานที่เลี้ยงให้มีความสะอาดไมให้มีพาหะนำโรค ทั้งนี้ หากพบสัตว์มีอาการผิดปกติ สงสัยว่าป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด หรือปศุสัตว์อำเภอในท้องที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 06 3225 6888 หรือทางแอพพลิเคชั่น DLD4.0 ณ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
https://region5.dld.go.th/webnew/index.php/th/news-menu/2019-08-07-09-22-48/1609-2564-n127#sigFreeId6fe8479bc1